วัยรุ่นยุคเจน Z มองสื่อลามกเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนเพศศึกษา

รายงานล่าสุดจากการสัมภาษณ์เชิงลึกวัยรุ่นนิวซีแลนด์อายุระหว่าง 14-17 ปีกว่า 50 คน พบว่าได้เรียนรู้เรื่องการยินยอมพร้อมใจ รูปร่างหน้าตา เพศสรีระและความสัมพันธ์ทางเพศจากสื่อลามกที่เข้าถึงได้ง่ายแม้เรื่องราวในสื่อจะไม่สมจริงก็ตาม

เดวิด แช็งค์ส หัวหน้าหน่วยงานเซ็นเซอร์ กล่าวว่าจากรายงานวิจัยเชิงคุณภาพล่าสุด โตมาพร้อมสื่อลามก – ข้อมูลเชิงลึกจากเยาวชนชาวนิวซีแลนด์ (Growing up with porn – Insights from young New Zealanders) นำเสนอผลการวิจัยที่มีประโยชน์หลายอย่างโดยเฉพาะในช่วงที่ผู้คนต้องกักตัวจากการระบาดของโควิด-19   

“รายงานดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลและสนับสนุนพ่อแม่ผู้ปกครองและ ฟาเนา (ภาษาเมารีหมายถึงครอบครัวขยาย) ให้สามารถดูแลเด็กและวัยรุ่นระหว่างที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน” เดวิด แช็งค์สบอก

รายงานฉบับนี้ใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกเยาวชนกว่า 50 คนจากทั่วประเทศ โดยถือว่าเป็นการต่อยอดจากก่อนหน้านี้ที่เคยมีผลสำรวจกลุ่มเยาวชน ได้แก่ เยาวชนนิวซีแลนด์กับสื่อลามก (NZ Youth and Porn) ในปี 2018 และ การวิเคราะห์เนื้อหาสื่อลามกกระแสหลัก ได้แก่ ตีแผ่สื่อลามก (Breaking Down Porn) ในปี 2019

“คงไม่มีใครประหลาดใจกับการที่เยาวชนใช้สื่อลามกเป็นเครื่องกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ แต่อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับบางคนที่ได้รับรู้ว่าเยาวชนใช้สื่อลามกเพื่อการเรียนรู้เรื่องเพศสัมพันธ์ เพศสรีระ และเพศวิถี แม้จะรู้ว่าสื่อลามกให้ภาพที่ไม่สมจริง และบางครั้งก็ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็ตาม” เดวิด แช็งค์สให้ความเห็น

เยาวชนให้ข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ว่าถ้าเป็นเรื่องสื่อลามกแล้ว ประเด็นเรื่องการยินยอม ภาพลักษณ์ของร่างกาย เพศกำเนิดและการศึกษาเรื่องเพศสัมพันธ์คือสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับพวกเขา และรู้สึกว่าการเข้าถึงสื่อลามกเป็นพฤติกรรมที่น่ากังวลน้อยกว่าพฤติกรรมเสี่ยงที่ผู้ใหญ่ชอบหยิบยกขึ้นมา เช่น การเสพยาเสพติด หรือความรุนแรง”

ประเด็นที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากการวิจัยครั้งนี้คือ เยาวชนต้องการให้ผู้ใหญ่คุยถึงเรื่องสื่อลามกแบบเป็นกันเองกับพวกเขามากกว่าจะตั้งแง่กับเรื่องหนังโป๊ และมองว่าเป็นเรื่องเลวร้ายไปหมด ทัศนคติลบสุดโต่งของผู้ใหญ่โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองทำให้การพูดคุยแบบเปิดอกเกี่ยวกับความสนใจในเรื่องสื่อลามกเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น  และยังทำให้เยาวชนเกิดความรู้สึกผิด ความละอายและความกังวลในการใช้สื่อลามก

การเข้าถึงออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้สื่อลามกเป็น “เรื่องปกติ” สำหรับวัยรุ่น  ไม่ว่าพวกเขาจะดูหรือไม่ก็ตาม นี่คือส่วนหนึ่งของโลก แม้ว่าผู้เข้าร่วมงานวิจัยจะมีภูมิหลังและความเชื่อที่แตกต่างกัน แต่ก็สนับสนุนให้มีการจัดการเรียนการสอน และทำการศึกษาเพิ่มขึ้นและดีขึ้นกว่าเดิมเกี่ยวกับสื่อลามกภายในบริบทของการสอนเพศศึกษาอย่างรอบด้าน

เยาวชนพูดถึงเรื่องการคุยเกี่ยวกับสื่อลามกว่าการอภิปรายและการศึกษาที่ดี ชัดเจนและซื่อตรงจะช่วยให้พวกเขาสามารถคิด วิเคราะห์ แยกแยะเรื่องราวของเพศสัมพันธ์และการยินยอมที่เกิดในสื่อลามกกับชีวิตจริงได้ดีขึ้น

เยาวชนเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องเติบโตโดยมีทักษะในการใช้ชีวิตที่เหมาะสมกับศตวรรษที่ 21 ซึ่งสำคัญต่อการนำไปใช้กับชีวิตดิจิทัลได้อย่างปลอดภัยและนำไปสู่การมีสุขภาวะ ขึ้นกับว่าผู้ใหญ่จะรับฟังและทำตามหรือไม่

 

ประเด็นสำคัญจากงานวิจัยดังกล่าว ได้แก่

  1. สื่อลามกถือเป็นเรื่องปกติสำหรับเยาวชนไม่ว่าพวกเขาจะดูหรือไม่ก็ตาม
  2. เยาวชนมีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องเพศสัมพันธ์และสื่อลามก และเห็นว่าเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ไปในตัว
  3. เด็กผู้หญิงก็ดูสื่อลามกด้วยเหมือนกัน ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกับเด็กชาย แต่สังคมกลับมองว่าการที่เด็กผู้หญิงดูหนังโป๊นั้น เป็นเรื่องเลวร้ายกว่า
  4. สื่อลามกสามารถส่งผลลบต่อภาพลักษณ์หรือความเชื่อมั่นของร่างกาย
  5. เยาวชนคิดว่ามันสามารถส่งอิทธิพลในทางลบกับการมีเพศสัมพันธ์
  6. เด็กและผู้ใหญ่ไม่คุยกันเรื่องหนังโป๊
  7. เยาวชนต้องการการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างครอบคลุมที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสื่อลามก
  8. เยาวชนมีมุมมองหลากหลายเกี่ยวกับตัวคัดกรองหรือการยืนยันด้วยอายุ แต่เห็นด้วยว่าเด็กไม่ควรเข้าถึงสื่อลามก

| เรียบเรียงจาก https://www.classificationoffice.govt.nz/news/latest-news/nzyouthandporn/

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบุข้อความ