ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุและมีอัตราการเกิดของเด็กน้อยลง

             ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุและมีอัตราการเกิดของเด็กน้อยลง จากการสำรวจพบว่าในชุมชนนำร่อง เช่น เขตลาดกระบัง-ร่มเกล้า เด็กเล็กที่อยู่กับผู้สูงอายุไม่ได้รับการพัฒนาเรื่องพัฒนาการอย่างเหมาะสม ทำให้มี พัฒนาการล่าช้า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ขาดรายได้ ผู้ดูแลเด็ก (ปู่ย่าตายาย) หลายคนต้องดูแลเด็กหลายคน ทำให้เกิดความเครียด และสภาพบ้านอาจไม่เอื้ออำนวยต่อการดูแลเด็ก

             เพื่อแก้ไขปัญหานี้ จึงมีการริเริ่มโครงการและแพลตฟอร์มสำคัญ ได้แก่:

  1. โครงการนำร่องในชุมชน (Sandbox Community):
    • มีการใช้ ศูนย์สุขภาพชุมชน เป็นพื้นที่กลาง
    • คัดเลือก ผู้สูงอายุที่มีความแข็งแรง เพียงพอที่จะดูแลเด็กเล็กไม่เกิน 5 คน
    • มีการ อบรมพัฒนาศักยภาพ ให้กับ อสส. และปู่ย่าตายายที่จะมาดูแลเด็ก
    • มีทีมประเมินคอย ติดตามผลพัฒนาการของเด็ก และความรู้ของผู้ดูแล เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ผู้ดูแลไม่เครียด และชุมชนเข้มแข็งขึ้น
    • เป็นกลไกที่ช่วยเชื่อมโยงผู้ดูแลเด็ก กลไกในชุมชน ผู้ปกครองเด็ก และความรู้เข้าด้วยกัน เพื่อให้เด็กได้รับความปลอดภัย
    • เป้าหมาย คืออยากให้กรุงเทพมหานครนำโมเดลนี้ไปขยายผล และจะมีการถอดบทเรียนเพื่อเป็นตัวอย่าง
  2. แพลตฟอร์ม “เติมเต็ม”:
    • เป็น ระบบงานสังคม ที่เชื่อมโยงความต้องการบริการของเด็กและผู้ปกครองเข้ากับการจัดบริการของหน่วยงานต่างๆ
    • มีเป้าหมายเพื่อ พัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองเด็กอย่างครบถ้วนทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติสังคม สวัสดิภาพ การศึกษา การเรียนรู้ สุขภาพ และความเป็นอยู่/อาชีพ
    • ทำงานร่วมกับผู้ปกครองและเด็กผ่านแกนนำชุมชน (อสส., อสม., ครูศูนย์เด็กเล็ก) เพื่อระบุ สัญญาณเตือน ที่บ่งชี้ว่าเด็กหรือครอบครัวอาจอยู่ในภาวะอันตรายหรือวิกฤต
    • มีการประเมินผลออกมาเป็นภาพจำลองที่เข้าใจง่าย (เช่น กลีบดอกสีแดง เขียว เหลือง) เพื่อนำไปสู่การสร้าง แผนผังบริการ “Journey of Service” ที่ผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการวางแผนอนาคตของเด็ก
    • แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้แกนนำชุมชนและครูมองเห็น 4 มิติของเด็ก อย่างครบถ้วน ไม่ต้องรอจนเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น
    • คาดการณ์ ว่าจะช่วยให้เด็กกลุ่มเปราะบางเข้าถึงบริการได้เร็วขึ้น 2 เท่า และจะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มบริการทางสังคมที่ดีที่สุดในเอเชียภายใน 5 ปีข้างหน้า
  3. สภาเมืองคนรุ่นใหม่:
    • เป็น แพลตฟอร์มและพื้นที่การมีส่วนร่วมอย่างมีความหมาย (social innovation) ที่ขับเคลื่อนเมืองโดยคนรุ่นใหม่
    • เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนเข้ามา ร่วมออกแบบนโยบาย และเสนอไอเดียได้ตลอดทั้งปี
    • ต้องการไอเดียเชิงนโยบายที่มี ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว เพื่อนำไปแก้ไขปัญหาจริง
    • ตัวอย่างความสำเร็จคือ การที่ทีมคนรุ่นใหม่ได้เสนอประเด็น สุขภาวะคนไร้บ้าน ซึ่งนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างสำนักพัฒนาสังคมและสำนักอนามัยของ กทม. ในการนำร่องจัดตั้งศูนย์พักพิงสำหรับคนไร้บ้าน
    • วิสัยทัศน์ระยะยาว คือการเห็นกลไกและโมเดลเช่นนี้ถูกนำไปปรับใช้ในระดับประเทศ โดยให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละจังหวัดและตำบล

             สำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว ตระหนักถึงความสำคัญในการดูแลเด็ก ทุกคนใน กรุงเทพมหานคร จึงได้สนับสนุนโครงการและแพลตฟอร์มเหล่านี้ เพื่อมุ่งเน้นการสร้าง กลไกที่ยั่งยืน ในการดูแลเด็กและครอบครัวที่เปราะบาง พัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง โดยเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

Shares:
QR Code :
QR Code