ครู ศพด. สร้างเครื่องมือกระตุ้นพัฒนาการเด็ก แถมลดความเสี่ยงโควิด-19

โควิด-19 ส่งผลให้สังคมทั่วโลกต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การเรียน และการใช้ชีวิตในยามว่าง

สำหรับไทย กลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบอย่างมากอีกกลุ่มในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนักในประเทศ คือ กลุ่มเด็กปฐมวัย โดยเฉพาะเด็กเล็กที่เคยใช้ชีวิตการเรียนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใกล้บ้าน เมื่อไม่ได้ไปเรียน ก็ส่งผลต่อพัฒนาการทุกด้าน

 

เด็กเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อสุพรรณ

ทำอย่างไรให้เด็กเล็กมีพัฒนาการสมวัย โดยปลอดภัยจากโควิดไปพร้อมกัน คำถามนี้ ครูขาว-สมบูรณ์ บุญมี หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลบ่อสุพรรณ ได้รับคำตอบจากการคิดค้นอุปกรณ์เพื่อกระตุ้นทักษะให้กับเด็กเล็ก และยังมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกด้วย

“เราใช้สื่อที่ผลิตขึ้นเองซึ่งออกแบบมาเพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตาของเด็กเล็ก ผลพลอยได้คือ เด็กให้ความสนใจและมีสมาธิ  ทำให้เด็กอยู่นิ่งได้นานขึ้น เมื่อเด็กนิ่งอยู่กับที่ไม่วิ่งเล่นไปมา ก็มีส่วนช่วยลดโอกาสในการแพร่กระจาย ถ้าหากเด็กเกิดติดเชื้อโควิดขึ้นมา” ครูขาวอธิบายหลักการของสื่อสำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตา เพื่อให้เด็กๆ ใช้งาน

ครูขาวอธิบายวิธีใช้สื่อสำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตาให้กับเด็กเล็กในศูนย์ฯ

ครูขาวได้แนวคิดการออกแบบอุปกรณ์สำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตาของเด็กเล็ก จากประสบการณ์ ด้านการเสริมพัฒนาการของเด็กมาตั้งแต่ปี 2548  เมื่อสังเกตเห็นว่าเด็กบางคนมีกล้ามเนื้อมือไม่ประสานกับสายตา จึงได้ทดลองสร้างชุดอุปกรณ์ขึ้นจากวัสดุรอบตัวที่สามารถหาได้ง่าย เช่น กระดานไม้ หมุดติดบอร์ด เสาลูกโป่งหลากสี รวมถึงอุปกรณ์เย็บผ้าทั้ง เศษผ้า ไหมพรม และซิป

“สื่อชุดนี้ช่วยกระตุ้นให้เด็กใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะเด็กจะมีสมาธิ ส่งผลให้ทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับการใช้สายตาได้ดียิ่งขึ้น สื่อที่สร้างขึ้นมา เราต้องคำนึงถึงช่วงวัยด้วย”

เด็กกำลังเล่นสื่อสำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตา

ครูขาวใช้สื่อสำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตาพร้อมกับเด็ก

เด็กเล่นสื่อสำหรับฝึกกล้ามเนื้อมือและสายตา

ครูขาวย้ำว่าก่อนการออกแบบสื่อขึ้นมาแต่ละชิ้นนั้น ต้องทำความเข้าใจให้ครอบคลุมถึงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของเด็กในช่วงแต่ละอายุ ว่าเป็นอย่างไร โดยศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมจาก หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 ควบคู่กับ คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย (DSPM : Developmental Surveillance and Promotion Manual)

ช่วงแรก เธอออกแบบสื่อชุดนี้เพื่อใช้เป็นผลงานเลื่อนวิทยฐานะเป็นครูชำนาญการพิเศษ แต่พอเกิดวิกฤตโควิด-19  เธอจึงถือโอกาสนำสื่อนี้มาใช้เพื่อทำให้เด็กมีสมาธิ และสร้างเสริมพัฒนาการให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น โดยครูขาวยังได้ปฏิบัติตามมาตรการที่ส่วนกลางกำหนด ในเรื่องต่างๆ ภายหลังที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกลับมาเปิดได้อีกครั้ง

 

เด็กเล็กทำความสะอาดมือก่อนเข้าศูนย์ด้วยตัวเอง

“พอคลายล็อกดาวน์ เราเริ่มจากการแยกเด็ก 2 ขวบ กับ 3 ขวบ ออกจากกัน ให้สลับกันมาวันละ 15 คน วันจันทร์ พุธ ศุกร์ กับ อังคาร พฤหัสบดี แล้วดูอาการก่อนจะปรับรูปแบบมาเรื่อยๆ ว่าเด็กอยู่รวมกันได้ไหม มีการตรวจวัดอุณหภูมิอยู่ตลอด รวมทั้งให้ผู้ปกครองหาอุปกรณ์ส่วนตัวของเด็กอย่างพวกกระติกน้ำ แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ผ้าเช็ดหน้ามา แล้วทำสัญลักษณ์เอาไว้เพื่อให้เด็กจดจำว่าชิ้นไหนเป็นของตัวเอง จัดการเว้นระยะที่นอนของเด็กแต่ละคนให้ห่างกัน ซึ่งมาตรการต่างๆ ได้ผลค่อนข้างดี ตอนนี้เด็กที่มีป่วย มีน้ำมูก เป็นหวัด ไอจาม และเอาโรคมาติดต่อที่ศูนย์ฯ แทบไม่มีเลย”

ครูขาวทำความสะอาดเครื่องเล่นภายในศูนย์ฯ

นอกจากนี้ ครูขาวยังได้ทำตาม 10 มาตรการประจำวันป้องกัน COVID-19 ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ได้เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.happinet.club ตั้งแต่การล้างมือก่อนเข้าศูนย์ การคัดกรองเด็ก การทำความสะอาดศูนย์ฯ ทั้งเช้าและเย็น การลดการเปิดแอร์ตลอดเวลาเพื่อให้อากาศถ่ายเท โดยเปิดในช่วงที่เด็กนอนเพื่อให้เด็กนอนหลับสบายขึ้น การเปิดหลอดไฟ UVC ฆ่าเชื้อในศูนย์ฯ หลังเวลาเด็กกลับบ้าน ไปจนถึงการทำความสะอาดของเล่น อุปกรณ์การสอน พื้น และวัตถุที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ

 

ครูขาวและเด็กเล็กภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

“เราพยายามสื่อสารให้ผู้ปกครองเข้าใจว่าเรากำลังฝึกพัฒนาการให้เด็กมีสมาธิ ให้ช่วยเหลือตัวเองได้ จึงให้เด็กทำทุกอย่างเองทั้งการเก็บของ ปูที่นอน รับประทานอาหารโดยใช้ช้อนตักเอง เพราะเมื่อเขาสามารถพึ่งพาตัวเองในเรื่องต่างๆ ได้ เขาก็จะสามารถดำรงชีวิตในโลกหลังโควิด-19 ได้อย่างปลอดภัยเช่นกัน”

 

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ระบุข้อความ